เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายกฯ แจงแล้ว คลิปเสียงหลุด “แพทองธาร-ฮุนเซน” เนื้อหาเชิงอ่อนข้อ ไม่ทันเกม สรุปแล้วชะตากรรม “ชาติไทย” จะไปทางไหนต่อ ?

ฮุนเซนเขามีจุดยืนที่ชัดเจนคือเขาต้องการสามปราสาทและช่องบก เขาอยากมีเรื่อง เขาอยากยกระดับ ตนเชื่อว่าฮุนเซนต้องการที่จะเขย่ารัฐบาลจนรัฐบาลพัง เราต้องมองให้ออกว่าฮุนเซนต้องการอะไร ถ้านายกฯ ออกตอนนี้ถามว่าจะได้กลับมาไหม ตนคิดว่าไม่ได้กลับ ถ้านายกฯ ออกตอนนี้แปลว่ายอมแพ้ต่อสถานการณ์ แผลรอบนี้มันใหญ่และเป็นการพลาดแบบที่คนไทยไม่ยอมกันเยอะ

ด้าน จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า ตนมองว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกัมพูชาไม่เกี่ยวข้องกับไทย ประเด็นคือฮุนเซนตัดสินใจยกระดับขึ้นแทนที่จะยุติ ภาพรวมคือทำอย่างไรให้รัฐบาลของลูกชายมีความเป็นเอกราชให้มากที่สุดจากอิทธิพลของต่างประเทศ ฮุนเซนเลือกที่จะขายความสัมพันธ์เพื่อขยายสะพานให้ลูกชาย ตนคิดว่านายกฯ ต้องระวังปากและคำพูด

โดยความคิดที่ว่าใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวมันจะดีที่สุดในการแก้ปัญหาประเทศ นายกฯ จึงได้พูดอย่างเต็มที่ พูดอย่างส่วนตัว พูดโดยไม่ห่วงว่าจะคลิปเสียงจะถูกนำมาเผยแพร่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นบทเรียนของนายกฯ ในส่วนที่พูดถึงแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงในลักษณะนั้นแน่นอนว่าประชาชนสามารถวิจารณ์ได้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรมันอยู่ที่ใครจะปฏิบัติอย่างไรมากกว่า คนเราพูดหลายครั้งก็สามารถพลาดได้ เราต้องขีดเส้นระหว่างส่วนตัวกับส่วนรวมให้ชัดเจน

———-

จำนวนถูกใจ = 2,737

การเมืองไทยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มักเต็มไปด้วยความพลิกผันและสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยาก การปรากฏตัวของ “อุ๊งอิ๊งค์” ในฐานะผู้นำรุ่นใหม่ ได้สร้างความคึกคักและกระแสความสนใจให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเมืองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป และหลายครั้งการตัดสินใจที่ดูเหมือนประนีประนอม อาจถูกมองว่าเป็นการ “อ่อนข้อ” จนนำไปสู่การเสียเปรียบในเกมการเมืองได้

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว “อุ๊งอิ๊งค์” สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่สูง และความท้าทายในการนำพาพรรคเพื่อไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ การเจรจาต่อรอง การประนีประนอม และการตัดสินใจที่เด็ดขาด ล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักการเมืองทุกคน แต่เส้นแบ่งระหว่างความยืดหยุ่นและการอ่อนข้อนั้นบางมาก และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือทางการเมืองได้

การ “ไม่ทันเกม” ในบริบทนี้ อาจหมายถึงการขาดความเข้าใจในกลไกและพลวัตทางการเมืองที่ซับซ้อน หรืออาจเป็นการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เป็นผลดีต่อตนเองและพรรคพวก การเรียนรู้จากประสบการณ์ การวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ และการมีที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องการเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว

สถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บีบบังคับให้ “อุ๊งอิ๊งค์” ต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย การเปิดใจรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และการแสดงจุดยืนที่ชัดเจน จะช่วยให้เธอสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ในที่สุด

การเมืองไทยยังคงเป็นเวทีที่เปิดกว้างสำหรับคนรุ่นใหม่ และ “อุ๊งอิ๊งค์” ยังมีเวลาอีกมากในการพิสูจน์ตัวเองและสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ การเรียนรู้จากความผิดพลาด การพัฒนาทักษะทางการเมือง และการยึดมั่นในอุดมการณ์ จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

source เครดิตคลิปต้นฉบับ

คลิปมาแรง
เพลงมาแรง
เกมมาแรง
กีฬามาแรง
ข่าวมาแรง
ตลกมาแรง
ยานยนต์มาแรง
โลกของสัตว์มาแรง

32 thoughts on ““อุ๊งอิ๊งค์” อ่อนข้อ ไม่ทันเกม !? #ถกไม่เถียง

  1. @RetinaPig says:

    ถ้าเป็นอุ๊งอิ๊งพูดไม่เสียหาย แต่ถ้านายกฯไทยพูดเช่นนี้ เสียหายร้ายแรงอย่างมาก !

  2. @perawich254 says:

    ร้องฟ้องคดีนายก คณะฐมนตรีเเละพรรคเมื่อไทยรวมทั้งทักษิณที่อยู่เบื้องหลังด้วยครับ

  3. @BnnLpm says:

    ไม่ใช่มุก ไม่ใช่แน่นอน มันเป็นความรู้สึกจริง พูดตามความรู้สึกจริง ไม่ใช่มุกค่ะ ไม่ใช่

ปิดความเห็นแล้ว